เมื่อเริ่มคิดได้ว่าควรกลับมาประจำที่ นั่งลง และเริ่มต้นเขียนอีกครั้ง จึงเอาฤกษ์เอาชัยด้วยการปัดกวาดบ้านหลังนี้เสียใหม่หลังจากปล่อยให้ซอมซ่อมานาน ซึ่งการปรับปรุงหน้าเว็บใหม่ครั้งนี้ก็ด้วยเหตุผลสามประการ ประการแรก หน้าเว็บแบบเก่าโหลดช้า เซิฟเวอร์ทำงานหนัก (เว็บโฮสติ้งบ่นมา) สอง อยากใช้อะไรที่เรียบง่าย เน้นเนื้อหาไม่ใช่หน้าตา สาม อันนี้สำคัญ เพื่อกระตุ้นให้อยากกลับมานั่งเขียนอีกครั้ง เพราะมันให้ความรู้สึกที่สดใหม่นั่นเอง
อย่างไรก็ตามเว็บม้งเอเชียยังคงแสดงผลเพี้ยนสำหรับผู้ใช้ ie นะครับ
หายหน้าหายตาไปก็ใช่ว่าไม่มีเรื่องให้เขียนนะครับ เรื่องราวต่างๆ ในสังคมม้งเรายังคงดำเนินอยู่ บางเรื่องก็เดิมๆ วนเวียนไปมา บางเรื่องก็เป็นเรื่องใหม่
ในยุคที่ม้งเราต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตอย่างสุดโต่งเช่นนี้ ได้มีเรื่องเศร้ามากมายเกิดขึ้นกับสถาบันครอบครัวม้งเรา โดยเฉพาะเรื่องการทำมาหาเลี้ยงชีพ ที่ทำให้สมาชิกในครอบครัวต้องห่างกันไป นำมาซึ่งการหย่าร้าง สุดท้ายครอบครัวต้องแตกสาแหรกขาด
ที่พูดไปเป็นเรื่องราวที่ผมคิดว่าพวกเราคงพบเห็น หรือได้ยินกันมาบ้างแล้ว จากนี้ผมขอเล่าถึงครอบครัวหนึ่งซึ่งเป็นคนใกล้ตัว ซึ่งปัจุบันกำลังประสบกับปัญหาดังกล่าวอยู่ และหากไม่ได้รับการแก้ไขในเร็ววัน มันอาจกลายเป็นเรื่องเศร้าที่สมบูรณ์แบบเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว
ครอบครัวนี้ประกอบด้วยพ่อแม่ และลูกๆ สามคน (ชายสอง หญิงหนึ่ง) คนโตสองคนเรียนอยู่ไกลบ้าน คนเล็กกำลังเรียนอยู่ระดับมัธยมต้นโรงเรียนใกล้บ้าน
เป็นเวลาสองสามปีแล้ว เมื่อว่างเว้นจากงานไร่สวน ผู้เป็นพ่อก็จะไปทำงานรับจ้างใน กทม. ส่วนผู้เป็นแม่ก็อยุ่บ้านดูแลงานไร่สวนและลูกคนเล็ก ทุกอย่างดูเหมือนจะดำเนินไปด้วยดี แต่แล้วปีใหม่ม้งที่ผ่านมาก็เริ่มมีข่าวคราวชู้สาวของผู้เป็นพ่อ
จากข่าวคราวดังกล่าวทำให้ผู้เป็นแม่ไม่ไว้ใจให้สามีตัวเองเข้าเมืองทำงานโดยลำพังอีกต่อไป ทางเลือกของทั้งคู่ก็คือเข้าไปรับจ้างในเมืองด้วยกัน โดยให้เหตุผลกับลูกๆ ว่าไปเพื่อเงิน ..เพื่อลูกๆ
การตัดสินใจของพ่อแม่คู่นี้ ส่งผลโดยตรงต่อลูกคนเล็ก เพราะเค้าต้องอยู่บ้านเพียงลำพัง ซึ่งเด็กระดับชันมัธยมต้นก็ไม่รู้ว่าจะสามารถรับมือกับปัญหาต่างๆ ที่จะตามมาได้อย่างไร
การตัดสินใจของพ่อแม่คู่นี้ได้มีการทักท้วงจากญาติพี่น้องพอสมควร แต่ก็ไม่เป็นผล
สิ่งที่น่าคิดก็คือ พ่อแม่คู่นี้ตัดสินใจบนพื้นฐานอะไร แม่ที่อ้างว่ารักลูกไปหาเงินเพื่อลูก แต่ดูเหมือนแม่จะรักพ่อ (และตัวเอง) มากกว่า พ่อที่อ้างว่ารักลูกแต่ก็ก่อปัญหาชู้สาวขึ้นมา จนเรื่องราวเลยเถิดมาถึงขั้นนี้
พื้นฐานของครอบครัวนี้มีที่ทำกินพอสมควร หากอยู่บ้านแม้ไม่มีเหมือนคนอื่นเค้า ก็คงไม่อดตาย เวลาที่เหลือจากนี้แทนที่จะลงทุนในตัวลูกๆ แต่พวกเค้ากลับไล่ตามสิ่งเดิมๆ ที่พวกเค้าไล่ตามมาทั้งชีวิต โดยไม่เหลียวหลังกลับมามองลูกๆ เลย ว่าแท้จริงแล้วลูกๆ ต้องการอะไร ..เงิน หรือพ่อแม่
ลูกคนเล็กซึ่งเป็นคนเงียบๆ อยู่แล้ว มีความเป็นไปได้ว่าอาจเสี่ยงกับโรคซืมเศร้าที่จะตามมา
การตัดสินใจด้วยอารมณ์ของพ่อแม่คู่นี้ อาจกลายเป็นจุดหักเหที่น่าเศร้าของครอบครัว จากที่เคยเป็นครอบครัวที่อบอุ่น ลูกๆ ทั้งสามคนล้วนนิสัยดี มีรถมีบ้าน มีที่ทำกิน แต่หากปล่อยให้สถานการณ์นี้ดำเนินต่อไป สิ่งที่เคยมีบางอย่างอาจต้องมลายหายไป
เรื่องใช้อารมณ์ตัดสินอนาคตนั้นม้งเราไม่เคยแพ้ใคร เพราะเรามักเก็บแต่สิ่งดีๆ ไว้ชื่นชม และแกล้งลืมเรื่องแย่ๆ ที่เกิดขึ้นรอบตัวเรา ..จนกระทั่งมันเกิดขึ้นอีก
สำหรับผู้เป็นแม่ อยากแนะนำให้เลือกลูกๆ ก่อนคนเป็นพ่อ เพราะถ้าเปรียบกับหวยแล้ว เลือกลูกๆ มีโอกาสถูกมากกว่า ..ยิ่งลูกสามคนด้วยแล้ว งานนี้เชื่อขนมกินได้เลย